วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาชีพครู

ครู

การเป็นครูนั้นไซร้ไม่ลำบาก
แต่สอนดีนั้นยากเป็นนักหนา

เพราะต้องใช้ศิลปวิทยา

อีกมีความเมตตาอยู่ในใจ

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล

กว่าจะมาเป็นครู

            การที่จะมาเป็นครูนั้น การที่สอบเข้าเรียนในสาขาอาชีพครูนั้นไม่ได้ยากลำบากเมื่อเทียบกับแพทย์ ทันตะและก็เภสัช หรือไม่ก็วิศวะ แต่เรื่องของการที่จะเข้าศึกษาในสาขาวิชาชีพครูนั้นมันขึ้นอยู่กับคำว่า "จิตใจ" ว่ารักในวิชาชีพครูมากแค่ไหนและสามารถทุ่มเทเวลาได้แค่ไหน เพราะ ครู คือ เบื้องหลังของความสำเร็จของนักเรียน  การศึกษาในวิชาชีพครูระดับปริญญาตรีนั้น ต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมด 5 ปีการศึกษา เมื่อจบออกมาแล้วก็จะได้รับใบประกอบวิชาชีพครู ซึ่งจะสามารถสอนนักเรียนในโรงเรียนหรือสถานศึกษาต่างๆได้ ระยะเวลาตลอด 5 ปีการศึกษาเค้าเรียนอะไรกันมั่งนะมาดูกัน
สำหรับที่ มศว
ชั้นปีที่1 - 4 จะเป็นการเรียนเนื้อหาล้วนๆ บวกกับวิชาที่มีการปฏิบัติบ้างเช่นมีการสังเกตการในโรงเรียน หรือ วิชาที่เป็นหลักสูตรและการสอน รวมถึงวิชาหมวดศึกษาทั่วไปและวิชาหมวดวิชาเอก โดยที่วิชาเอกจะสอนโดยคณาจารย์คณะที่ตนเองสังกัด และวิชาชีพครู จะสอนโดยคณาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มศว
ชั้นปีที่ 5 จะเป็นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
สำหรับ มศว มีโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนสำหรับการฝึกสอนต่างๆ ดังนี้
- โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายประถม)
 
- โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม)
- โรงเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน
- โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
- โรงเรียนหอวัง
- โรงเรียนบดินทรเดชา(สิง สิงหเสนี)
- โรงเรียนปทุมคงคา
เป็นต้น

ความหมายของครู

        ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยใช้การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนในการนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ของสังคมและประเทศชาติ

ภารกิจแต่ละวันของอาชีพครู

            แน่นอนผู้ที่เป็นครูต้องมาโรงเรียนแต่เช้า 7 โมงเช้าก็มาโรงเรียน(มาเร็วกว่าเด็กนักเรียนอีก)และก็16.30น. ก็เป็นเวลาเลิกงาน แต่จริงๆแล้วมันก็ต้องช้ากว่านั้นเพราะครูต้องคอยดูแลการสอนซ่อมเสริมให้กับนักเรียนที่เรียนไม่เข้าใจ ต้องมีการคุมแถวในตอนเช้า สอนหนังสือ อบรมสั่งสอน วิจัยในชั้นเรียน เขียนแผนการสอน ให้คำปรึกษาและธุระอีกจิปาถะกับนักเรียน นอกจากนั้นยังต้องเตรียมการสอนและการซ่อมเสริมนักเรียนอีก แต่ยังโชคดีนะที่อาชีพครูเป็นอาชีพเดียวที่มีคำว่า ปิดเทอม และก็ยังได้รับเงินเดือนอีกด้วย  ไม่ว่าจะอย่างไร อาชีพครูนี่แหละคือ...เบื้องหลังของความสำเร็จโดยแท้จริง
ค่าตอบแทนของครู
            คนส่วนใหญ่คิดว่าเงินเดือนครูที่ได้แต่ละเดือนนั้นมันไม่พอกินพอใช้และก็น้อยมากเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ แต่ที่จริงแล้วครูที่ได้รับการบรรจุในตอนแรกเงินเดือนจะได้น้อยอยู่ก็จริงแต่เมื่อทำงานไปเรื่อยๆเงินเดือนก็จะเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นหากขยันทำผลงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการก็จะได้รับเงินประจำตำแหน่ง นี่ยังไม่รวมถึงสวัสดิการต่างๆเช่นค่ารักษาพยาบาล รับรองว่าเป็นครูไม่อดตาย แน่นอน หากจะสรุปง่ายๆ คนที่อยากก้าวหน้าในวิชาชีพนี้ต้องเป็นผู้ใฝ่รู้อย่างเสมอ มีความคิดสร้างสรรค์และสร้างผลงานที่มาจากความคิดของตน ผนวกกับความขยันรับรองอนาคตรุ่งแน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด คือ การที่ศิษย์ของตนเองได้ร่วมกันพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ นี่แหละคือสิ่งตอบแทนทางใจที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่นใด
อุปกรณ์ที่ครูขาดไม่ได้
1. ชอล์กและกระดานดำ อุปกรณ์หากินหลักของอาชีพครูแบบว่าขาดไม่ได้ครูจะขาดใจ เพราะว่าเค้าคู่กัน แต่บางโรงเรียนก็ไฮโซใช้ ไวท์บอร์ดกับปากกาเขียนไวท์บอร์ด
2. ปากกาแดง อุปกรณ์ตรวจการบ้านที่ดูคลาสสิกที่สุด เพราะสามารถเห็นสีของมันได้ไกลประมาณหลายเมตร มันเป็นสิ่งที่คอยให้กำลังใจ(ครูเขียนชม) สิ่งที่น่ากลัว(เวลาตรวจข้อสอบ)
3. ไม้เรียว แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะยกเลิกไม้เรียวไปแล้ว แต่เมื่อพูดถึงมันทีไรก็ต้องคิดถึงครูทันทีเลย(โหย เสียว...)
คุณสมบัติในการก้าวสู่อาชีพครู

1.      ต้องมีใจรักที่จะประกอบอาชีพครู มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลทั่วไป
2.      ต้องมีความอดทน มีเมตตากรุณา มีเหตุผล มีเวลาเอาใจใส่อบรมสั่งสอนนักเรียน เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีอยู่ในกรอบศีลธรรมจรรยา
3.      ต้องเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีความขยัน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก มีความคิดสร้างสรรค์และต้องรู้จักหลักจิตวิทยาเด็ก
4.      ต้องเป็นครูที่ดีมากว่าครูที่เก่ง แต่ถ้าเป็นครูที่ดีด้วยและครูที่เก่งด้วยนี่ดีที่สุด
คำแนะนำของคนที่อยากจะเป็นครู

          คนที่อยากจะเข้ามาศึกษาในสาขาวิชาชีพครูนั้นต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี นอกจากนั้นต้องเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่เสมอ และมีใจรักที่จะประกอบอาชีพครูด้วย เนื่องจากผู้ที่เรียนในสาขาวิชาชีพครูนั้นต้องตระหนักว่าเมื่อเรียนจบออกไปแล้วจะต้องประกอบอาชีพครูที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยให้สูงขึ้น ดังนั้นภารกิจของครูจึงไม่ได้มุ่งเน้นที่จะสอนเนื้อหาเพียงอย่างเดียวแต่ยังจะต้องอบรมสั่งสอนให้ศิษย์เป็นคนดีอีกด้วย ดังนั้นหากครูสอนให้เด็กเป็นคนเก่งหรือสอบเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาดังๆได้ แต่ถ้าหากเด็กคนนั้นไม่สามารถเป็นคนดีที่ตระหนักถึงความดี ความชั่ว สิ่งถูก สิ่งผิดได้ ถือว่าครูคนนั้นไม่ประสบความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู
ทำยังไงถึงจะได้เรียนครู

          การที่จะเข้ามาศึกษาในหลักสูตรวิชาชีพครูนั้นมีหลายสถาบันที่เปิดสอน
สำหรับ มศว
 
รับทั้งจากสอบตรงและรับผ่านแอดมิสชั่น 
สอบตรง สมัครได้ที่
http://admission.swu.ac.th
สำหรับวิชาเอกที่ทำการสอนครู 5 ปี ของ มศว ต้องมีวงเล็บ (กศ.บ.)
 
* กศ.บ. คือ หลักสูตรปริญญาการศึกษาบัณฑิต หลักสูตรผลิตครูของ มศว
สำหรับการสอบแอดมิสชั่น ต้องใช้วิชาตามส่วนวิชาต่างๆดังนี้
1. GPAX 10 %
2. GPA
กลุ่มสาระ 20 % ดังนี้
2.1 ไทย 4 %
2.2 สังคม 4 %
2.3 ภาษาต่างประเทศ 4 %
2.4 คณิต 4 %
2.5 วิทย์ 4 %
3. O-NET 40 % ดังนี้
3.1 รหัส 01 ภาษาไทย 8 %
3.2 รหัส 02 สังคม 8 %
3.3 รหัส 03 ภาษาอังกฤษ 8 %
3.4 รหัส 04 คณิตศาสตร์ 8 %
3.5 รหัส 05 วิทยาศาสตร์ 8 %
4. A-NET 30 %
ดังนี้
4.1 วิชาเอก/วิชาเฉพาะไม่เกิน 2 วิชาวิชาละ 10 % ถ้าวิชาเดียว 20 % (รหัส11-15/31-38/40-47)
4.2 รหัส 39 ความถนัดทางวิชาชีพครู 10 %
อ่านบทความ"เรียนครูที่ไหน ไม่ภูมิใจเท่า มศว"เพิ่มเติมได้ที่
http://my.dek-d.com/pk473/story/view.php?id=346764


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น